วิธีทำ ราดหน้าหมู สูตรเด็ด สูตรโบราณ แบบละเอียด

ราดหน้า-วิธีทำ

วิธีทำน้ำราดหน้าใส่ไข่ สูตรเด็ด ทำง่ายๆ ทำได้ที่บ้าน

เป็นเมนูอาหารไทยยอดนิยมที่มีต้นกำเนิดมาจากจีน มีลักษณะเด่นคือ ราดหน้าหมูนุ่ม สูตรโบราณ ที่เข้มข้นและหอมกลมกล่อม ราดหน้า วิธีทำ นั้นเป็นเมนูนิยมรับประทานคู่กับเส้นหมี่ และเป็นเมนูที่กินเป็นอาหารมื้อหลักได้ แป้งที่ใช้ในการทำราดหน้ามีหลายชนิด ที่นิยมใช้กันได้แก่ แป้งมันสำปะหลัง แป้งข้าวโพด และแป้งมันฮ่องกง มาเริ่มจาก เส้นราดหน้า กันก่อนเลย

สูตร ผัดเส้นราดหน้า

  1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อน ใส่เส้นหมี่ลงไปทอดจนเหลืองกรอบ
  2. เตรียมเส้นหมี่ใส่ชาม เทลงไปน้ำมันที่ร้อน ลงไปให้เส้นขึ้นรูป
  3. ก็ตักขึ้นมานำเส้นหมี่ที่ลวกสุกแล้วมาสะเด็ดน้ำมัน

วิธีทําหมี่กรอบ ราดหน้า

ตั้งกระทะบนไฟแรง ใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย

ใส่เส้นหมี่ลงไป คลี่เส้นให้แยกออกจากกัน

คั่วเส้นจนเหลืองหอม ประมาณ 2-3 นาที

ปิดไฟ พักไว้ให้เย็น

คั่วเส้นใหญ่ / คั่วเส้นหมี่

ตั้งกระทะบนไฟแรง ใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย

ใส่เส้นใหญ่ลงไป คลี่เส้นให้แยกออกจากกัน

คั่วเส้นจนเหลืองหอม ประมาณ 2-3 นาที

ใส่ซีอิ๊วดำลงไป 1 ช้อนชา คั่วต่อจนเส้นมีกลิ่นหอม

ปิดไฟ พักไว้ให้เย็น

เคล็ดลับ วิธีคั่วเส้นใหญ่ / เส้นหมี่ราดหน้า

  • ใช้ไฟแรงจะทำให้เส้นคั่วได้กรอบและหอม และผัดให้เร็ว
  • คลี่เส้นให้แยกออกจากกันจะทำให้เส้นคั่วได้ทั่วถึง
  • ใส่ซีอิ๊วดำลงไปตอนคั่วจะทำให้เส้นมีกลิ่นหอม

แป้งที่ใช้ทำราดหน้า 

แป้งมันสำปะหลัง จะให้น้ำราดหน้าที่มีความข้นเหนียวมากที่สุด แต่เมื่อเย็นตัวลงจะคืนตัวได้ง่าย จึงนิยมผสมกับแป้งชนิดอื่นเพื่อไม่ให้น้ำราดหน้าข้นเกินไป

แป้งข้าวโพด จะให้น้ำราดหน้าที่มีความขุ่นเล็กน้อย แต่ไม่ข้นเหนียวเท่าแป้งมันสำปะหลัง เมื่อเย็นตัวลงจะไม่คืนตัวง่าย จึงนิยมนำมาใช้ทำน้ำราดหน้าแบบแห้ง

แป้งมันฮ่องกงราดหน้า เยาวราช จะให้น้ำราดหน้าที่มีความใส เหนียวข้น และรสชาติกลมกล่อม เมื่อเย็นตัวลงจะไม่คืนตัวง่าย จึงนิยมนำมาใช้ทำน้ำราดหน้าแบบแห้ง 

โดยทั่วไปแล้ว ราดหน้า สูตรโบราณ แบบดั้งเดิมจะนิยมใช้แป้งมันสำปะหลังเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันก็มี สูตรราดหน้าราดหน้า เชียงใหม่ แบบประยุกต์ที่ใช้แป้งชนิดอื่นผสมกัน เพื่อได้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่หลากหลายมากขึ้น

นอกจากนี้  ยังมีแป้งชนิดอื่นที่สามารถใช้ทำราดหน้า สูตร อื่นๆได้ เช่น แป้งท้าวยายม่อม แป้งข้าวเหนียว และแป้งสาลี แต่แป้งเหล่านี้จะให้น้ำราดหน้าที่มีความข้นเหนียวน้อยกว่าแป้งมันสำปะหลัง แป้งข้าวโพด และแป้งมันฮ่องกง ดังนั้น การเลือกแป้งในการ ทำราดหน้า จึงขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและสูตรอาหารที่ต้องการทำเป็นหลัก

เคล็ดลับ&สูตร ราดหน้า วิธีทำ

ใช้เส้นใหญ่แบบไหนดี แนะนำให้ใช้เส้นใหญ่ที่ทำจากแป้งข้าวจ้าว หรือ เส้นใหญ่ นี้จะมีรสชาติและกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ของราดหน้าถ้าไม่มีหมู สามารถใช้เนื้อสัตว์ชนิดอื่นแทนได้ไหม สามารถใช้เนื้อสัตว์ชนิดอื่นแทนได้ เช่น เนื้อไก่ เนื้อวัว หรือกุ้ง แต่จะมีความอร่อยที่แตกต่างกันไป

ถ้าไม่มีเต้าเจี้ยว สามารถใช้ซอสปรุงรสแทนได้ไหม สามารถใช้ซอสปรุงรสแทนได้ แต่รสชาติจะแตกต่างกันไป

วิธีทำราดหน้าหมูนุ่ม

  • ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย
  • ใส่กระเทียมสับลงไปผัดจนหอม
  • ใส่น้ำซุปลงไป ปรุงรสด้วยเต้าเจี้ยว ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และพริกไทย
  • รอจนน้ำเดือด ใส่ผักลงไปลวกพอสุก
  • ใส่เส้นหมี่หรือเส้นใหญ่ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
  • ปิดไฟ ใส่เครื่องเคียงตามชอบ เช่น พริกไทยป่น และ พริกน้ําส้ม ราดหน้า

ส่วนประกอบ ราดหน้า

เส้นหมี่ 200 กรัม

หมูหมัก 200 กรัม

คะน้า 200 กรัม หรือผักอื่นๆ

ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ

ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ

เกลือ 1/2 ช้อนชา

พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา

น้ำเปล่า 2 ถ้วย

น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสม

หมูสับ 500 กรัม

ไข่ไก่ 2 ฟอง

แป้งมัน หรือแป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ

รสดี 1 ช้อนชา

น้ำซุปกระดูกหมู 1 ลิตร

คะน้า 1 กำมือ

กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ

เต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

วิธี ทํา น้ํา ราดหน้า ใส่ไข่

หมักหมู หลังเตรียม วัตถุดิบ ราดหน้า โดยนำหมูหมักมาคลุกเคล้ากับซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส น้ำตาลปี๊บ เกลือ และพริกไทยป่นให้เข้ากัน พักไว้ประมาณ 30 นาที

วิธี ทํา น้ํา ราดหน้า ใส่ไข่

ทอดเส้นหมี่ โดยนำเส้นหมี่ไปลวกให้สุก แล้วนำมาทอดในน้ำมันพืชจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้

ส่วนผสมและวิธีทำ น้ำราดหน้าใส่ไข่

วิธี ทํา น้ํา ราดหน้า ใส่ไข่

น้ำราดหน้าใส่ไข่เป็นเมนูอาหารจานเดียวที่ทำได้ง่ายๆ ใช้เวลาไม่นาน รับรองว่าอร่อยถูกใจอย่างแน่นอน อย่าลืมลองทำตามสูตรของเราดูนะคะ น้ำราดหน้าใส่ไข่เป็นเมนูอาหารจานเดียวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย เมนูนี้ทำไม่ยากและสามารถทำได้เองที่บ้าน วันนี้เราจะมาแชร์สูตรน้ำราดหน้าใส่ไข่สูตรเด็ด รับรองว่าอร่อยถูกใจอย่างแน่นอน

หมักหมู นำหมูสับใส่ชามผสม ใส่ไข่ไก่ แป้งมัน หรือแป้งข้าวโพด น้ำมันหอย น้ำมันงา รสดี และคนให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง หรือแช่ตู้เย็นข้ามคืน

ทำน้ำราดหน้า ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย ใส่กระเทียมสับลงไปผัดจนหอม ใส่หมูหมักลงไปผัดจนสุก เติมน้ำซุปกระดูกหมูลงไป ใส่คะน้าลงไปลวกพอสุก

ปรุงรส ใส่เต้าเจี้ยว น้ำปลา และชิมรสตามชอบ ใส่แป้งมัน หรือแป้งข้าวโพดที่ละลายน้ำลงไป คนให้เข้ากันจนน้ำข้นขึ้น

ตักใส่เส้นใหญ่ ตักเส้นใหญ่ที่เตรียมไว้ใส่จาน ราดน้ำราดหน้าใส่ไข่ลงไป โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและผักชีซอย เสิร์ฟร้อนๆ

เคล็ดลับการทำน้ำราดหน้าใส่ไข่ให้อร่อย

เลือกใช้หมูสับที่มีมันแทรกเล็กน้อยจะทำให้น้ำราดหน้ามีความหอมและอร่อยมากยิ่งขึ้น

การหมักหมูทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือแช่ตู้เย็นข้ามคืน จะทำให้หมูนุ่มและซึมซับรสชาติของน้ำหมักได้ดี

ใส่น้ำซุปกระดูกหมูลงไปจะทำให้น้ำราดหน้ามีรสชาติกลมกล่อม

ลวกคะน้าพอสุก จะทำให้คะน้ายังคงความกรอบและสีเขียวสด

ใส่แป้งมัน หรือแป้งข้าวโพดลงไปจะทำให้น้ำราดหน้ามีความข้นขึ้น

เมนูอื่นๆ จากเราก็มีให้ติดตามเรื่อยๆ อัพเดทรายสัปดาห์ กันที่นี้เลย CHECKTHAIFOOD4.COM

เมนูประจำภาคต่างๆ : ขนมไทยโบราณ ทำง่ายๆ , เมนูหมูย่างน้ำตก

หมูย่างน้ำตก สูตรทำง่าย อร่อยแซ่บถึงใจ

หมูย่างน้ำตก


หมูย่างน้ำตก คอหมูย่าง วิธีทำ อาหารอีสานรสเด็ด เผ็ดแซ่บจนลืมไม่ลง

ใครจะไปรู้ว่าอยู่ดี ๆ  หมูย่างน้ำตก หรือ น้ำตกหมู หรือ น้ำตกเนื้อ อาหารไทยสไตล์อีสานรสเด็ดเผ็ดแซ่บ จะมาแรงขึ้นแท่นเป็นเมนูเด็ดโดนใจชาวต่างชาติได้ด้วย ก็คงเพราะเสน่ห์ของความอร่อยครบรส ทั้งเปรี้ยว เค็ม และเผ็ด แถมยังหอมกลิ่นข้าวคั่วอีกด้วย ถ้ารู้แบบนี้แล้วเราก็ต้องเกาะกระแสกันหน่อย ในรอบนี้เราจะมาทำเมนูอาหารอีสานอย่าง น้ำตกหมูกินกันดีกว่า บอกเลยว่าไม่ได้มีดีแค่รสอร่อยแซ่บเท่านั้นนะคะ คอหมูย่าง วิธีทำ ยากไหม? หมักหมูย่าง น้ำตกหมูยังทำง่ายอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้วก็ตามมาดู วิธีทำ คอหมูย่าง น้ำตกหมูกันให้ไวเลยจ้า

วิธีทำ สูตรหมักหมู หมูย่างน้ำตก

วัตถุดิบ

สันคอหมู 500 กรัม

ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ

พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

มะนาว 1 ลูก

หอมแดงซอย 5 หัว

ผักชีฝรั่ง 3 ต้น

ต้นหอมซอย 3 ต้น

ใบสะระแหน่ 1 กำมือ

 สูตรหมักหมูย่าง นั้นจะมี วิธีหมักคอหมูย่างให้นุ่มอร่อย นำสันคอหมูหั่นเป็นชิ้นพอคำ หมักกับข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำมันพืชเล็กน้อย ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หรือใครชอบกินแบบ กับแกล้ม ก็สามารถทำแบบ วิธีทําน้ําจิ้มแจ่ว ก็ได้

ย่างหมู

นำ หมักคอหมูย่าง ไว้ย่างบนกระทะหรือเตาย่างจนสุกเหลืองทั้งสองด้าน

ทำน้ำยำ

นำน้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ มะนาว 1 ลูก หอมแดงซอย 5 หัว ผักชีฝรั่ง 3 ต้น และต้นหอมซอย 3 ต้น ใส่ลงในชามผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ

จัดเสิร์ฟ

นำ หมูย่าง ที่หั่นไว้ใส่ลงในชามน้ำยำ ใส่ใบสะระแหน่ 1 กำมือ คลุกเคล้าให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ

เคล็ดลับ

วิธีทำลาบน้ำตก เลือกใช้สันคอหมู หมักหมูย่าง หรือเนื้อหมูสันนอก หมักกับข้าวคั่ว พริกป่น น้ำปลา และน้ำมันพืชเล็กน้อย คล้ายๆกับ วิธีทําน้ําจิ้มแจ่ว คอหมูย่าง ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้หมูมีรสชาติเข้มข้น เป็น สูตรทำหมูย่างน้ำตก

ย่างหมูบนกระทะหรือเตาย่างจนสุกเหลืองทั้งสองด้าน

และใน น้ำตก ใส่ใบสะระแหน่ลงไปในน้ำยำ เพื่อให้น้ำยำมีกลิ่นหอมและรสชาติสดชื่น

สูตร & เคล็ดลับ เพิ่มเติม

สูตรหมูย่างน้ำตก สามารถดัดแปลงรสชาติได้ตามชอบ เพิ่มพริกป่นหรือมะนาวได้ตามชอบ

หากต้องการน้ำยำที่ข้นขึ้น วิธีทําน้ําจิ้มแจ่ว หมูย่าง สามารถใส่น้ำมะขามเปียกหรือน้ำส้มสายชูได้

น้ำตกหมู สามารถรับประทานคู่กับข้าวเหนียว ผักสดต่าง ๆ หรือขนมจีนได้

บทสรุป

น้ำตกหมู เป็นเมนูอาหารอีสานรสเด็ด เผ็ดแซ่บจนลืมไม่ลง สามารถทำเองได้ที่บ้าน ต้องขอขอบคุณสูตรอาหารจาก ครัวบ้านพิม เพียงเตรียมวัตถุดิบให้พร้อม และทำตามขั้นตอน วิธี ทํา หมูย่างน้ำตก ที่แนะนำ รับรองว่าจะได้น้ำตกหมูสูตรเด็ด อร่อยแซ่บถึงใจอย่างแน่นอน และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเมนู อาหารอีสาน ยอดนิยม

สามารถติดตามสูตรอาหารเพิ่มเติมได้ CHECKTHAIFOOD4.COM

เมนูของหวานหวานไทยโบราณ ทําเอง ง่ายๆ , ไม่ง้อ ร้านขนม

ขนมหวานไทย

เมนูของหวานไทยโบราณ ทำง่ายๆ ทำเองได้ที่บ้าน

เมนูของหวานง่ายๆ ทําเอง เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมมาช้านาน ไม่ว่าจะตามร้านขนมหวานหรือร้านเบเกอรี่ ก็มีเมนูของหวานมากมายให้เลือกสรร แต่หลายคนอาจคิดว่าการทำขนมหวานเป็นเรื่องยาก ต้องใช้ทักษะและอุปกรณ์มากมาย วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ อาหารหวาน6ชนิด เมนูของหวานไทยง่ายๆ และเบเกอรี่ ที่ใครก็ทำเองได้ ใช้วัตถุดิบไม่เยอะ เมนูของหวานไทยโบราณ ง่ายๆ และสามารถทำได้ที่บ้าน และอร่อยจนต้องกลับมาทำซ้ำ!

1. กล้วยบวชชี

กล้วยบวชชีเป็นเมนูของหวานที่หอมหวาน รสชาติกลมกล่อม เป็นอีกหนึ่งเมนูที่หาทานได้ง่ายตามร้านขนมหวานทั่วไป แต่ใครจะรู้ว่าการทำกล้วยบวชชีนั้นทำได้ง่ายกว่าที่คิด เพียงแค่มีส่วนผสมหลักๆ เพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น ได้แก่ กล้วยน้ำว้า กะทิ น้ำตาลทราย และเกลือเล็กน้อย ก็สามารถทำกล้วยบวชชีแสนอร่อยทานเองได้ที่บ้านแล้ว

กล้วยบวชชี

ขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิกล้วยบวชชี

ล้างกล้วยน้ำว้าให้สะอาด

ตั้งกระทะใส่กะทิ น้ำตาลทราย และเกลือเล็กน้อย คนให้เข้ากัน รอจนกะทิเดือด

ใส่กล้วยน้ำว้าลงไป

วิธีทำขนมไทย กล้วยบวชชี

ส่วนผสม

กล้วยน้ำว้า 8 ลูก

น้ำตาลปี๊บ 30 กรัม

น้ำตาลทราย 20 กรัม

เกลือ ¼ ช้อนชา

แป้งมัน 1 ช้อนชา

ใบเตย 2 ใบ

น้ำเปล่า 150 มิลลิลิตร

วิธีทำ

นำกล้วยน้ำว้าไปนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 3-5 นาที หรือจนกระทั่งผิวของกล้วยน้ำว้าเริ่มแตกออก แล้วปิดไฟ นำออกมาปอกเปลือก และหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ

นำหางกะทิไปต้มในหม้อ ใส่ใบเตยลงไปเพื่อเพิ่มความหอม เมื่อเดือดแล้วก็ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย และเกลือ คนให้ละลายดีแล้วใส่กล้วยที่หั่นไว้แล้วลงไป

เมื่อกะทิเริ่มเดือดอีกครั้งใส่หัวกะทิลงไป และปล่อยทิ้งไว้ให้เดือดอีกประมาณ 3 นาที

ตักใส่ถ้วย โรยด้วยมะพร้าวขูด รับประทานได้ทันที 

เคล็ดลับ

เคล็ดลับการเลือกกล้วยน้ำหว้า

  • ควรใช้กล้วยน้ำว้าสุกห่ามจะทำให้กล้วยบวชชีมีรสชาติหวานหอม
  • ควรใช้กะทิสดจะทำให้ขนมมีรสชาติหอมมัน
  • ควรตักใส่ถ้วยขณะที่ขนมยังร้อนอยู่จะทำให้ขนมมีรสชาติอร่อย

เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการทำ ของหวานกะทิง่ายๆ อีกอย่างนึง ที่ทุกคนก็สามารถนำ สูตรทำกล้วยบวชชี ไปใช้ทำซ้ำต่อๆไปได้

2. บัวลอยไข่หวาน

บัวลอยไข่หวาน

บัวลอยไข่หวานเป็นเมนูของหวานที่เป็น น้ำกะทิ เมนู ของหวาน ไทย ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก หาทานได้ง่ายตามร้านขนมหวานทั่วไป แต่ใครจะรู้ว่าการทำบัวลอยไข่หวานนั้นทำได้ง่ายกว่าที่คิด เพียงแค่มีส่วนผสมหลักๆ เพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น ได้แก่ แป้งบัวลอย น้ำตาลทราย น้ำกะทิ และไข่ไก่ ก็สามารถทำบัวลอยไข่หวานแสนอร่อยทานเองได้ที่บ้านแล้ว

สูตร บัวลอยไข่หวาน

  1. เตรียมแป้งบัวลอย โดยผสมแป้งบัวลอยกับน้ำเปล่าให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเนียนเหนียว จากนั้นปั้นเป็นก้อนกลมขนาดเท่าลูกแก้ว
  2. ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นใส่แป้งบัวลอยลงไปต้มจนสุกลอยขึ้นมา พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
  3. ตั้งกระทะใส่น้ำกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือเล็กน้อย คนให้เข้ากัน รอจนน้ำกะทิเดือด
  4. ตอกไข่ไก่ใส่ลงไปในน้ำกะทิ รอจนไข่ไก่สุกเป็นลวก
  5. ใส่บัวลอยลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
  6. ตักบัวลอยไข่หวานใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

3. สาคูเปียกข้าวโพดมะพร้าวอ่อน

สาคูเปียกข้าวโพดมะพร้าวอ่อนเป็นเมนูของหวานที่หอมหวาน รสชาติกลมกล่อม เป็นอีกหนึ่งเมนูที่หาทานได้ง่ายตามร้านขนมหวานทั่วไป แต่ใครจะรู้ว่าการทำสาคูเปียกข้าวโพดมะพร้าวอ่อนนั้นทำได้ง่ายกว่าที่คิด เพียงแค่มีส่วนผสมหลักๆ เพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น ได้แก่ สาคูเม็ดเล็ก ข้าวโพดอ่อน น้ำกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือเล็กน้อย ก็สามารถทำสาคูเปียกข้าวโพดมะพร้าวอ่อนแสนอร่อยทานเองได้ที่บ้านแล้ว

วิธีทําขนม สาคูเปียกข้าวโพดมะพร้าวอ่อน

ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นใส่สาคูลงไปต้มจนสุกใส

พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ

ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นใส่ข้าวโพดอ่อนลงไปต้มจนสุก

ตั้งกระทะใส่น้ำกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือเล็กน้อย คนให้เข้ากัน รอจนน้ำกะทิเดือด

ใส่สาคูและข้าวโพดอ่อนลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน

ตักสาคูเปียกข้าวโพดมะพร้าวอ่อนใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

4. ถั่วเขียวต้มน้ำตาล

อีกเมนู ของว่างไทย ง่ายๆ นั่นก็คือ ถั่วเขียว ต้มน้ำตาลเป็นเมนูของหวานที่หอมหวาน รสชาติกลมกล่อม เป็นอีกหนึ่งเมนูที่หาทานได้ง่ายตามร้านขนมหวานทั่วไป แต่ใครจะรู้ว่าการทำถั่วเขียวต้มน้ำตาลนั้นทำได้ง่ายกว่าที่คิด เพียงแค่มีส่วนผสมหลักๆ เพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น ได้แก่ ถั่วเขียว น้ำตาลทราย และเกลือเล็กน้อย ก็สามารถทำถั่วเขียวต้มน้ำตาลแสนอร่อยทานเองได้ที่บ้านแล้ว

ถั่วเขียวต้มน้ำตาล

วิธีทำ ถั่วเขียวต้มน้ำตาล

  • แช่ถั่วเขียวไว้ข้ามคืน เพื่อให้ถั่วเขียวนุ่ม
  • ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นใส่ถั่วเขียวลงไปต้มจนสุก
  • ใส่น้ำตาลทรายและเกลือเล็กน้อย คนให้เข้ากัน รอจนน้ำตาลละลาย
  • ตักถั่วเขียวต้มน้ำตาลใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

5. มันเชื่อม

วิธีทำขนมไทย มันเชื่อม

ส่วนผสม

มันเทศ (หรือมันแกว) 1 กิโลกรัม

น้ำเปล่า 1 ลิตร

น้ำตาลทราย 250 กรัม

เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำมันเชื่อม นั่นไม่ยาก เริ่มจากขั้นตอนแรก ปอกเปลือกมันเทศ แล้วหั่นเป็นชิ้น ๆ หนาประมาณ 1 นิ้ว

นำน้ำเปล่าใส่หม้อ ใส่น้ำตาลทราย และเกลือป่นลงไป คนให้น้ำตาลทรายละลายดีแล้วใส่มันเทศลงไป

ตั้งไฟกลาง เคี่ยวจน มันเทศ หรือ มันสำปะหลัง สุกนุ่ม และน้ำเชื่อมเหนียวข้น ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย รับประทานได้ทันที

เคล็ดลับ ทำมันเชื่อมทำมันเชื่อม

  • ควรเลือกมันเทศที่มีสีเหลืองเข้มจะทำให้มีรสชาติหวานหอม
  • ควรเคี่ยวมันเทศจนสุกนุ่มจะทำให้มีเนื้อสัมผัสที่อร่อย

6. วิธีทำขนมไทย ขนมทองหยิบ

ส่วนผสม

  • ไข่แดง 10 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 100 กรัม
  • แป้งมัน 100 กรัม
  • น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
  • ใบเตย 2 ใบ
  • น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทํา ขนม ทองหยิบ

  1. ผสมไข่แดงกับน้ำตาลทรายให้เข้ากัน ตีจนขึ้นฟู
  2. ร่อนแป้งมันลงไปทีละน้อย ตีให้เข้ากัน
  3. ใส่น้ำเปล่าลงไป ตีให้เข้ากันอีกครั้ง
  4. ใส่ใบเตยลงไป คนให้เข้ากัน
  5. ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไป รอให้น้ำมันร้อน
  6. ตักแป้งทองหยิบลงกระทะทีละช้อน กลิ้งให้แบน
  7. ทอดจนสุกเหลืองทั้งสองด้าน ตักขึ้นพักไว้
  8. จัดใส่จาน รับประทานได้ทันที

เคล็ดลับทำขนม ทองหยิบ

  • ควรตีไข่แดงจนขึ้นฟูจะทำให้ขนมมีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม
  • ควรร่อนแป้งมันก่อนนำไปผสมกับไข่แดง เพื่อป้องกันไม่ให้แป้งจับตัวเป็นก้อน
  • ควรใช้ใบเตยสดจะทำให้ขนมมีกลิ่นหอม
  • ควรทอด ขนมทองหยิบ ในน้ำมันร้อนจัด จะทำให้ขนมกรอบอร่อย

และนี่ก็เป็น สูตรขนมไทย ต่างๆ ที่เรา ได้หาไว้ให้กับเพื่อนๆ ทุกคน สามารถใช้สูตรนี้ไปปรับแต่งหรือสามารถ ทำขนมหวานขาย ก็ได้เช่นกัน หากเพื่อนๆคนไหนอยากรู้ว่ามีสูตร ของหวานไทยมีอะไรบ้าง ก็สามารถติดตามได้ checkthaifood4.com

ไม่มีหมวดหมู่

อาหารภาคกลางง่ายๆ เมนูประจํา ชาติอาเซียน

อาหารไทย ประจำ ภาคกลาง

คำอธิบาย: อาหารไทยภาคกลางเป็นอาหารที่มีรสชาติหลากหลาย มีทั้งรสเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด อาหารไทยภาคกลางเป็นที่นิยมอย่างมากทั้งในและต่างประเทศ วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีทำอาหารไทยประจำภาคกลาง 5 เมนูด้วยกัน เมนูอาหารพื้นบ้าน รับรองว่าทำง่าย อร่อยถูกปาก และเป็น เมนูประหยัด รับรองว่า อาหารทำง่ายๆ อร่อยถูกปาก กันทั่วหน้ากันแน่นอน

เนื้อหา:

เมนูอาหารไทยภาคกลาง & สูตร ขั้นตอน วิธีการทำ

อาหารพื้นบ้านภาคกลาง เป็นอาหารที่มีรสชาติหลากหลาย มีทั้งรสเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด อาหารไทยภาคกลางเป็นที่นิยมอย่างมากทั้งในและต่างประเทศ อาหารไทยภาคกลางมีส่วนผสมและวิธีการทำที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับแต่ละท้องถิ่น วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีทำอาหารไทยประจำภาคกลาง 5 เมนูเมนูอาหารแบบบ้านๆ ด้วยกัน รับรองว่าทำง่าย อร่อยถูกปาก

1.ต้มข่าไก่ – tom kha gai (Thai coconut chicken soup)

ต้มข่าไก่เป็นอาหารไทยยอดนิยมเมนูหนึ่ง รสชาติกลมกล่อม หอมเครื่องแกง เหมาะสำหรับทานกับข้าวสวยร้อนๆ ต้มข่าไก่ทำจากไก่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด น้ำมะนาว น้ำกะทิ น้ำตาลปี๊บ และพริกไทย วิธีการต้มข่าไก่มีดังนี้

ต้มข่าไก่-tom-kha-gai

ส่วนผสม:

ไก่ 1 กิโลกรัม

ข่าแก่ 2 ราก

ตะไคร้ 2 ต้น

ใบมะกรูด 4-5 ใบ

น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำกะทิ 500 มิลลิลิตร

น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ

พริกไทย 1 ช้อนชา

วิธีทำ:

หั่นไก่เป็นชิ้นพอดีคำ

ตำข่า ตะไคร้ และใบมะกรูดให้ละเอียด

ใส่น้ำกะทิ น้ำตาลปี๊บ และพริกไทยลงในหม้อ ตั้งไฟกลาง

ใส่ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูดที่ตำไว้ ต้มจนเดือด

ใส่ไก่ลงไป ต้มจนไก่สุก

ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ

ปิดไฟ ยกลงจากเตา

.

อ่านเพิ่มเติม

2. ต้มยำกุ้ง Tom yum kung (spicy shrimp soup)

ต้มยำกุ้งเป็นอาหารไทยอีกเมนูหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก รสชาติเปรี้ยว เผ็ด หอมเครื่องแกง เหมาะกับทานกับข้าวสวยร้อนๆ ต้มยำกุ้งทำจากกุ้งสด ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และพริกขี้หนู วิธีการต้มยำกุ้งมีดังนี้

ต้มยำกุ้ง-tom-yum-krung

ส่วนผสม:

กุ้งสด 500 กรัม

ข่าแก่ 2 ราก

ตะไคร้ 2 ต้น

ใบมะกรูด 4-5 ใบ

น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ

พริกขี้หนู 10 เม็ด

วิธีทำ:

ล้างกุ้งให้สะอาด ผ่าหลังเอาไส้ออก

ตำข่า ตะไคร้ และใบมะกรูดให้ละเอียด

ใส่น้ำเปล่า น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และพริกขี้หนูลงในหม้อ ตั้งไฟกลาง

ใส่ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูดที่ตำไว้ ต้มจนเดือด

ใส่กุ้งลงไป ต้มจนกุ้งสุก

ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ

ปิดไฟ ยกลงจากเตา

.

อ่านเพิ่มเติม

3. ข้าวผัด – khao pad (Egg Fried Rice)

ข้าวผัด เป็นอาหารจานเดียวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยใช้ข้าวสวยที่เหลือจากมื้อก่อน นำมาผัดกับน้ำมัน ไข่ และเครื่องปรุงรสต่าง ๆ ข้าวผัดสามารถใส่เนื้อสัตว์ ผัก และเครื่องเคียงต่าง ๆ ได้ตามชอบ เมนูข้าวผัดที่มีชื่อเสียงของภาคกลาง ได้แก่ ข้าวผัดกระเพรา ข้าวผัดหนำเลี๊ยบ และข้าวผัดปู

Egg Fried rice-ข้าวผัดไข่

ขั้นตอนการทำ & วิธีทำข้าวผัด

ส่วนผสม:

ข้าวสวย 3 ถ้วย

ไข่ไก่ 2 ฟอง

น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ

หอมหัวใหญ่หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 หัว

หมูสับ 100 กรัม

ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ:

ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใส่กระเทียมสับลงไปเจียวจนหอม

ใส่หอมหัวใหญ่ลงไปผัดจนสุกใส

ใส่หมูสับลงไปผัดจนสุก

ใส่ข้าวสวยลงไปผัดจนเข้ากัน

ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำตาลทราย และพริกไทยป่น

ผัดจนข้าวสุก ปิดไฟ ยกลงจากเตา

เคล็ดลับการทำข้าวผัด

ควรใช้ข้าวสวยที่เย็นแล้ว ข้าวจะร่วนและไม่แฉะ

ใส่น้ำมันพืชในปริมาณที่พอเหมาะ ข้าวจะได้ไม่ติดกระทะ

ผัดกะเพราให้สุกก่อนใส่ข้าวลงไปผัด ข้าวจะได้ไม่แฉะ

ปรุงรสข้าวผัดด้วยซอสปรุงรส น้ำตาลทราย และพริกไทยป่น ชิมรสตามชอบ

4. แกงส้ม – kaeng som ( Thai Sour Soup )

แกงส้ม

คำอธิบาย: แกงส้มเป็นอาหารไทย ประจำภาคกลางประเภทแกงที่มีรสเปรี้ยว เผ็ด และหอมเครื่องแกง แกงส้มสามารถใส่เนื้อสัตว์ ผัก และเครื่องเคียงต่าง ๆ ได้ตามชอบ แกงส้มเป็นอาหารยอดนิยมของภาคกลางและภาคใต้ แกงส้มที่มีชื่อเสียงของภาคกลาง ได้แก่ แกงส้มชะอมกุ้ง แกงส้มผักรวม และแกงส้มคั่วถั่ว

ขั้นตอนการทำ & วิธีทำแกงส้ม

ส่วนผสม:

น้ำพริกแกงส้ม 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำเปล่า 1 ลิตร

กุ้งสด 500 กรัม

ชะอม 1 กำ

ใบมะกรูด 3 ใบ

มะเขือเปราะ 2 ลูก

ถั่วฝักยาว 100 กรัม

น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ

พริกขี้หนูสด 3 เม็ด

วิธีทำ:

ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่า ใส่น้ำพริกแกงส้ม ต้มจนเดือด [external resource link]

ใส่กุ้งสดลงไป ต้มจนกุ้งสุก

ใส่ชะอม ใบมะกรูด มะเขือเปราะ และถั่วฝักยาวลงไป ต้มจนผักสุก

ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และพริกขี้หนูสด ชิมรสตามชอบ

ปิดไฟ ยกลงจากเตา

คล็ดลับการทำแกงส้ม

ควรใช้น้ำเปล่าสะอาด แกงจะอร่อยและไม่มีกลิ่นคาว

ควรใส่กุ้งสดที่ตัวไม่แตก แกงจะอร่อย

ใส่ชะอมและใบมะกรูดลงไปก่อนเพื่อให้แกงมีกลิ่นหอม

ควรปรุงรสแกงด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และพริกขี้หนูสด ชิมรสตามชอบ

5.ผัดกะเพรา – Pad Gaprao (Stir fried Thai basil) 

ผัดกะเพราเป็นอาหารไทยยอดนิยมอีกเมนูหนึ่ง สูตรผัดกระเพราโบราณ นั้นมีรสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นใบกะเพรา เหมาะกับทานกับข้าวสวยร้อนๆ ผัดกระเพราทำจากเนื้อสัตว์ ส่วน เครื่องปรุงผัดกระเพรา ก็มีทั้ง ใบกะเพรา กระเทียม พริกไทย ซอสปรุงรส และน้ำมันพืช วิธีการผัดกะเพรามีดังนี้

ส่วนผสม:

เนื้อสัตว์ตามชอบ 200 กรัม

ใบกะเพรา 1 ถ้วย

กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ

พริกไทยป่น 1 ช้อนชา

ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ:

ล้างเนื้อสัตว์ให้สะอาด หั่นชิ้นพอดีคำ

วิธีผัดกระเพรา นั้นตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช

 ใส่กระเทียมและพริกสับลงไปเจียวจนหอม

ใส่เนื้อสัตว์ลงไปผัดจนสุก

ใส่ใบกะเพราลงไปผัดให้เข้ากัน

ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส พริกไทย

บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ผัดกระเพราใส่อะไรบ้าง ในวันนี้ทาง CHECKTHAIFOOD4 ก็จะมาบอกกันว่า เมนูอาหารไทย นั้นทำได้ไม่ยาก อย่าง สูตรผัดกระเพรา อร่อย ก็สามารถทำได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องมีวัตถุดิบเยอะมากมายอะไร

อาหารไทย 4 ภาค : อาหารภาคกลาง ที่ได้นำเสนอข้างต้น ส่วนใหญ่เป็นอาหารไทยที่มีรสชาติอร่อย กลมกล่อม และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ สามารถทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน แต่ล่ะเมนูเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย เหมาะสำหรับรับประทานเป็นอาหารหลักหรือกับข้าวก็ได้ 

และวันนี้ก็สิ้นสุดไปกับ 4 เมนูภาคกลางทำง่ายๆ จากเรา  หากใครสนใจ สูตรอาหารพื้นเมือง ต่างๆก็สามารถแวะเข้ามาดูได้เสมอกัน เมนูอาหาร100เมนู ที่เรามีนำเสนอทุกท่านตลอดทุกสัปดาห์
อาหารไทยพื้นบ้าน เมนูอื่นๆ : แกงส้ม, แกงเปรี้ยว, อาหารไทย, ภาคกลาง, อาหารประจำภาคกลาง, น้ำพริกแกงส้ม, กุ้งสด, ชะอม, ใบมะกรูด, มะเขือเปราะ, ถั่วฝักยาว, น้ำปลา, น้ำตาลปี๊บ, พริกขี้หนูสด

ไม่มีหมวดหมู่